KM go to know
เบาหวานกับการทำให้เกิด Self Management
บทเรียนและประสบการณ์นี้นำสู่ขบวนการ P-D-C-A และนำมาพัฒนาระบบบริการในคลินิก โดยการร่วมมือกับทีมในการพัฒนาการจัดการให้ผู้ป่วยเบาหวานให้มีจัดการดูแลตนเองเป็นเรื่องท้าทายเพราะเบาหวานเป็นโรคเรื้อรัง อยู่กันยาวนานตลอดทั้งชีวิต เพราะโรคเป็นของเราเองไม่มีใครหยิบยื่นหรือสั่งให้เราทำอะไรได้
การจัดการตนเองเป็นเรื่องที่ยาวนานตลอดชีวิตของคนเป็นเบาหวาน เรามีบทบาทและหน้าที่ในการเอื้ออำนวยให้ผู้ป่วยเบาหวานเป็น “ผู้จัดการตนเอง” ที่มีประสิทธิภาพ สิ่งที่ต้องมีมาก่อนที่จะจัดการตนเองได้คือ ผู้ป่วยต้องมีความรู้และทักษะที่เพียงพอ
- ผู้ป่วยเบาหวานต้องมีความรู้ว่าต้องทำอะไร อย่างไร เมื่อใด มีทักษะในการกระทำ ตลอดจนเข้าใจตนเองและเข้าใจภาวะความเจ็บป่วยของตนเป็นอย่างดี
เรื่องเล่าในองค์กรแพทย์ “เมื่อคุณป้าเฉลียวกลายเป็นเรื่องเล่าในระหว่างมื้ออาหารในห้องพักแพทย์ ”
- ป้าเฉลียวเล่าให้ฟ้งในเรื่อง life style ว่าปกติชอบทานก๋วยเตี๋ยว ดื่มน้ำจับเลี้ยงวันละ 2—3 ขวด ทานขนมหวานเดี๋ยววันนี้จะไปเลิกแระนัดกลับมาคลินิกอีกครั้ง น้ำตาลยัง 500 กว่าทุกวันๆทีมแพทย์เริ่มคิดหนักน้ำตาลมาจากไหนเมื่อป้าบอกทางทีมว่ากินแต่หัวปลีต้มทุกวันเลยอย่างอื่นไม่กินกลัวมาก
- พยาบาลทวนสอบการฉีดยาอินซูลิน การออกกำลังกายแต่ด้วยป้ามีปัญหาเรื่องของ Charchort foot /diabetic foot จึงลำบากในการเคลื่อนไหวทางกายพยาบาลทำการล้วงปัญหาอีกครั้ง” ป้าบอกกับทีมว่ากินแต่หัวปลีอย่างอื่นไม่เคยได้กินเลย ทำไมนะน้ำตาลยังสูงเริ่มแรกให้ทำ SMBG มาส่งทำ bio feed back ถามป้าว่าได้อะไรจากการทำ SMBG บ้าง “ป้าบอกว่ารู้ว่ามันสูงมันต่ำแต่ฉันไม่ได้กินอะไรจริงๆนะ”
- ทีมสหวิชาชีพเริ่มลงเยี่ยมบ้านภาพที่เรามโนว่าไม่มีที่ออกกำลังกายกลับเป็นที่โล่งโปร่งสบาย อาหารในครัว ฝีมือที่กังปรุงอาหารให้ที่บ้านซึ่งเป็นครอบครัวใหญ่กลับมาวางแผนอีกครั้งนัดครอบครัวทำกลุ่มจดรายการอาหารพร้อมทำผลคือน้ำตาลลดแต่ป้าอดอาหาร
- ทีมลองอีกครั้งสอนตั้งแต่อาหาร การนับ CARB ให้ครอบครัวลองกลับไปคิดว่าจะออกกำลังกายด้วยวิธีไหนดี ใช้หลัก 4 บัน บันดาน บรรเลง บันทึก และ บรรลุ
- ผลที่เกิดขึ้นป้าเฉลียวกลับมาพร้อมด้วยมอส (ลูกชาย) ยื่นคลิปให้พยาบาลดู มอสบอกกับเราว่า “แม่ไม่ต้องอดแล้วนับเอาว่ากินแป้งเท่าไหร่สนุกดีเหมือนลุ้นเลขที่ออก”
- ผลระยะปานกลาง คือ พฤติกรรมการกินเปลี่ยน ทานได้เหมาะสมตามช่วงเวลาและข้อจำกัด ไม่เกิดภาวะน้ำตาลสูง มานอนโรงพยาบาล
- ผลระยะยาว คือ การควบคุมโรคดี FPG Hba1c ดี ชีวิตดี มีความสุข รู้เท่าทันโรค ไม่วิตกกังวล สบายใจ อารมณ์ดี แผลที่เท้าหายเร็วขึ้นแทนการถูกตัดเท้า
ก่อนจะไปดูบทบาทหน้าที่ ที่เราสั่งให้เค้าทำตาม เราต้องมาทบทวนดูหน้าที่เราก่อนว่า จะให้เค้าจัดการดูแลตนเองได้อย่างไร แล้วเราต้องทำอะไรเราผู้ถ่ายทอดความรู้ ต้องมีความรู้ที่ถูกต้องเช่นกัน ถึงจะถ่ายทอดความรู้ไปให้ผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี ตัวอย่าง การคำนวณพลังงานของป้าเฉลียว (น้ำหนักที่ควรจะเป็น ก.ก. น้ำหนักเกิน)
|
กิจกรรมเบา |
ปานกลาง |
หนัก |
น้าหนักเกิน |
20-25 |
30 |
35 |
น้าหนักปกติ |
30 |
35 |
40 |
ผอม |
30 |
40 |
45 - 50 |
การคำนวณพลังงานมีหลายสูตรที่เราใช้ คือสูตรของ Shilset et al คำนวณพลังงานจากน้าหนักตัวและระดับกิจกรรมแต่จะต้องคำนวณค่าดัชนีมวลกายก่อน เพื่อดูว่านํ้าหนักอยู่ในเกณฑ์ใด โดยทั่วไปสูตรนี้ใช้สำหรับผู้ที่มีสุขภาพดี ตำราว่าไว้อย่างนั้น ก็จะได้ 80X35 = 1,750 kcal แต่ต้องการลดน้ำหนักจึงแนะนำ 1,200 Kcal ให้ carb 11 ส่วน คือ 4 – 4 – 3 /วัน
แบ่งเป็นอาหารดังนี้ตัวอย่างอาหารที่ให้พลังงาน 1,200 แคลอรี ต่อวัน
ป้าเฉลียวและครอบครัวนำไปปรับได้เหมาะสม กับชีวิตของตนเอง และใช้การออกแรงด้วยรอกทุกวันเช้า –เย็นครั้งละ 30นาที จดรายการอาหารพร้อมผลน้ำตาลเข้ามาเรียนรู้การนับ carb การแลกเปลี่ยนอาหารในแต่ละมื้อ ทางด้านอารมณ์เป็นคนอารมณ์ดียิ้มแย้มแจ่มใสประเมิน 5ST= negative
เรื่องเล่าประสบการณ์การจัดการรายกรณีโดย
นางสาวรังสิมา สุวรรณศรี
พยาบาลผู้จัดการรายกรณีเบาหวาน ความดันโลหิตสูง